คาโอรุกตลาดผู้บริโภคสายรักษ์โลก จับมือ SCGC และ Dow มุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สู่ผู้นำด้านความยั่งยืน
1 ธันวาคม 2566 – กรุงเทพฯ – บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด (Kao) รุกตลาดผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจความยั่งยืน จับมือสองผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ระดับโลก ได้แก่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC) และ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) การพัฒนาบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก เพิ่มทางเลือกแก่ผู้บริโภคเพื่อความยั่งยืน เน้นบรรจุภัณฑ์คุณภาพที่มีการปลดปล่อยคาร์บอนต่ำลงและรีไซเคิลได้ เตรียมนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของคาโอในประเทศไทยต่อไปในอนาคต
ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้สินค้าแบรนด์ดัง คู่ครัวเรือนคนไทยต่างๆ อาทิ แอทแทค บิโอเร ไฮเตอร์ มาจิคลีน ลอรีเอะ ฯลฯ ได้ปักหมุดพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจความยั่งยืน โดยเข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท SCGC และ Dow ณ สำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ในอาคารทรูดิจิตัล พาร์ค เวสท์ โดยมีนายยูจิ ชิมิซึ ประธานกรรมการ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด นายพิสันติ์ เอื้อวิทยา ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC) และนายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ร่วมลงนามในครั้งนี้
นายยูจิ ชิมิซึ ประธานกรรมการ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “คาโอ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำทางด้านอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อย่าง SCGC และ Dow ในการร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมสำหรับสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ตามหลัก 4R: Reduce, Reuse, Recycle และ Replace สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางด้าน ESG หรือ “Kirei Lifestyle Plan” (คิเรอิ ไลฟ์สไตล์ แพลน)
คาโอมีเป้าหมายที่จะบรรลุ Net Zero ในปี ค.ศ. 2040 เพื่อลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการดำเนินธุรกิจของคาโอ เราจึงใส่ใจในการจัดการพลังงานภายในโรงงานผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรอายุ เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน และตั้งเป้าหมายลดขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2040 หมายความว่าปริมาณบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เราจำหน่ายออกไปจะต้องเท่ากับปริมาณบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำกลับมารีไซเคิล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ คาโอต้องมีพันธมิตรที่เข้มแข็ง เชี่ยวชาญ และมีเป้าหมายร่วมกัน อย่าง DOW และ SCGC เพื่อสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทางที่ยั่งยืนและเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
นายพิสันติ์ เอื้อวิทยา ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า “แนวทางเพื่อความยั่งยืนที่ SCGC ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง คือ การดำเนินธุรกิจภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยพัฒนากรีนโซลูชัน (Green Solutions) ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์สินค้า และผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อความยั่งยืน สำหรับความร่วมมือกับคาโอในครั้งนี้ SCGC พร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาขวดและถุงบรรจุภัณฑ์ ด้วยนวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก จาก SCGC GREEN POLYMER™ ซึ่งมี 4 โซลูชันหลัก ได้แก่ การลดใช้ทรัพยากร (Reduce) การออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้ (Recyclable) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน (Renewable) เพื่อสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนให้กับผลิตภัณฑ์ภายใต้คาโอ รวมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม”
“Dow มุ่งมั่นในการสนับสนุนลูกค้าของเราในการลดการปลดปล่อยคาร์บอน และลดขยะพลาสติกตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน” นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว “เราพร้อมสนับสนุน Kao ในการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์แบบ Flexible packaging ที่ยั่งยืน ด้วยความเชี่ยวชาญจาก Dow ทั้งในประเทศไทย และ Dow Pack Studio สิงคโปร์ ผสานกับนวัตกรรมเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษของ Dow เช่น INNATE, ELITE, DOWLEX และเม็ดพลาสติกผสมพลาสติกใช้แล้ว REVOLOOP เพื่อให้ถุงบรรจุภัณฑ์ของคาโอสามารถรีไซเคิลได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น และยังคงตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี”
ข้อตกลงนี้จะนำไปสู่การออกแบบพัฒนาวัสดุใหม่ๆ และการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้กับสินค้าต่างๆ ภายใต้คาโอ ให้มีคาร์บอน ฟุตพรินท์ที่ต่ำลง และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ทั้งบรรจุภัณฑ์ชนิดขวด และชนิดถุง โดยยังคงคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์ที่ดีในการปกป้องผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในและให้ความสะดวกกับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของคาโอในการเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัท ที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี 2593 สอดคล้องกับแนวทางของ SCGC และ Dow ที่มุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างทางเลือกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคชาวไทย